นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้ให้บริการระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) แบบครบวงจรและผู้แทนจำหน่ายจีพีเอสแบรนด์การ์มิน กล่าวว่า“ตลาดจีพีเอสทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันการ์มินเป็นเจ้าตลาดจีพีเอส และเป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่มีสินค้าครบวงจรครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับจีพีเอสทั้งหมด สำหรับในเมืองไทยนั้นการเติบโตของตลาดเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดโลก โดยมีการเติบโตประมาณปีละ 20% สำหรับประเทศไทยนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลาดที่ยังเป็นตลาดหลักที่ใหญ่ที่สุดของการ์มินนั้นเป็นส่วนของอุปกรณ์ช่วยนำทาง (Personal Navigation Device – PND) ซึ่งมีส่วนแบ่ง 80% ของผลิตภัณฑ์การ์มินทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทมองว่าตลาดอุปกรณ์ช่วยนำทางในเมืองไทยนั้นนั้นยังมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังมีอัตราการครอบครองผลิตภัณฑ์น้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือเกาหลี ที่มีอุปกรณ์ช่วยนำทางอยู่ในรถยนต์ถึง 70%”

“ด้วยความมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อ การ์มินจึงมีแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยในปีนี้ได้เปิดตัวอุปกรณ์ช่วยนำทางรุ่นใหม่ นูวี่ 3592 แอลเอ็ม (nuvi 3592LM) ซึ่งเป็น PND เครื่องแรกที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ทั้งยังเพิ่มฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นหลากหลายและอัพเดทแผนที่ได้ฟรี ตลอดอายุการใช้งานเครื่อง เพื่อตอบสนองความสุขและความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิมของผู้บริโภค nuvi 3592LM ยังสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการประหยัดเวลา การขับรถโดยรู้เส้นทางทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังสามารถหาแหล่งท่องเที่ยวหรือแวะทานอาหารอร่อยๆ ระหว่างทางได้ด้วย และที่สำคัญที่สุดคือความน่าเชื่อถือของแบรนด์การ์มินที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดในตลาดของจีพีเอส ซึ่งเมื่อเวลานึกถึงผลิตภัณฑ์จีพีเอส ผู้บริโภคจะนึกถึงแบรนด์การ์มินเสมอ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความทนทาน ข้อมูลแม่นยำ และมีการบริการหลังการขายที่ดี”

นายไกรรพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ PND ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของการ์มินแล้ว บริษัทวางแผนในการขยายฐานไลน์อัพผลิตภัณฑ์ไปยังผลิตภัณฑ์ที่เป็นไลฟ์สไตล์อื่นๆ จากความเป็นผู้นำนวัตกรรมจีพีเอส ของการ์มิน จึงสามารถขยายสู่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นเพื่อตอบสนองตลาดในทุกระดับตั้งแต่ระดับโพรเฟซชันนอลไปจนถึงระดับคนทั่วไป ซึ่งการ์มินได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลากหลายหมวดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เริ่มให้ความสำคัญและเอาใจใส่กับการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น อีกทั้งเทรนด์การออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งการ์มินมีผลิตภัณฑ์โดดเด่นที่เปิดตัวในไตรมาส 1 ปีนี้ อาทิ

• “วิโว่ฟิต (Vivofit)” Fitness Band ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานอัจฉริยะที่จะเรียนรู้ระดับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมแสดงจำนวนก้าว แคลอรี่ ระยะทาง และติดตามการนอน ตลอดจนบันทึกระดับชีพจร และข้อมูลการเผาผลาญแคลอรี่ที่แม่นยำ แล้วจึงตั้งเป้าหมายเฉพาะตัวประจำวันเฉพาะบุคคล และติดตามความเป็นไปในแต่ละวัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจับตามองสุขภาพของตนเองในชีวิตประจำวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญตัวเครื่องกันน้ำ และแบตเตอรี่ของวิโว่ฟิตยังมีอายุยาวนานใช้งานได้ถึง 1 ปีโดยไม่ต้องชาร์ตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ยังไม่มีแบรนด์ใดในตลาดทำได้

• “ฟอร์รันเนอร์ 620 (Forerunner 620)” นาฬิกาจีพีเอสสำหรับวิ่งขั้นสูง เสมือนการมีครูฝึกวิ่งส่วนตัว สามารถทดสอบสมรรถนะร่างกายแบบ VO₂ max เพื่อการฝึกที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีมิเตอร์วัดความเร่ง (Accelerometer) สำหรับการฝึกในที่ร่ม ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องช่วยในการวัดระยะทาง โดยไม่จำเป็นต้องแยกใช้ Foot Pod สามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายไปยัง Garmin Connect ผ่านแอพ Garmin Connect Mobile บนสมาร์ทโฟน พร้อม Live Tracking เพื่อติดตามการวิ่งแบบเรียลไทม์ และแบ่งปันข้อมูลบนโซเชียล มีเดียได้ทันที

• “เวิร์บอีลิท(VIRB Elite)” กล้องวิดีโอแบบแอคชั่น คาเมร่า พร้อมหน้าจอในตัว กันน้ำ บันทึกได้นานกว่า 3 ชั่วโมง ต่อเนื่อง มีจีพีเอสความไวสูงสำหรับบันทึกข้อมูลพร้อมกับ Wi-Fi สำหรับการสื่อสารแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จีพีเอสสำหรับจักรยานซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มไลฟ์สไตล์ของการ์มิน ผลิตภัณฑ์สำหรับว่ายน้ำ กอล์ฟ และกล้องบันทึกติดรถยนต์ (Driving Recorder) ที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้อีกหลายรุ่น

นายไกรรพยังกล่าวถึงทิศทางการตลาดของแบรนด์การ์มินอีกว่า “บริษัทเตรียมบุกตลาดในปีนี้ด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังช่องทางใหม่ๆ อาทิ อีคอมเมิร์ซผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองการที่ผู้บริโภคในเมืองไทยเริ่มซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น การจับมือพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นร้านเฉพาะทางในสาขาต่างๆ เช่น ร้านจักรยาน ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การวิ่ง โรงพยาบาล ซึ่งบริษัทต้องสร้างความสัมพันธ์กับสเปเชียลลิสต์เหล่านี้ให้แข็งแกร่งเนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต้องการคำแนะนำจากผู้รู้จริง นอกจากนี้ยังมีสื่อประชาสัมพันธ์ และสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมถึงสื่อในร้านค้า เพื่อสร้างการรับรู้และนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง”

“บริษัทเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์เรือธงต่างๆ ที่เราภูมิใจนำเสนอในปีนี้ จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากมีดีไซน์ฟังก์ชั่นที่ทันสมัย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ แถมยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพสูงที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะรักษาความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์จีพีเอสได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ด้วยเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์แบรนด์การ์มินทั้งหมด 120,000 เครื่อง”นายไกรรพกล่าวสรุป